วันจันทร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2559

บทที่ 8 การประยุกต ์ใช้โปรแกรม Microsoft PowerPoint 2010












               การประยุกต ์ใช้โปรแกรม Microsoft PowerPoint 2010 1. การใส่Transition 2. การใส่ Animation 3. การน าเสนอด้วยมัลติมีเดีย 4. การเชื่อมโยงหลายมิติ (Hyperlink) 5. การเผยแพร่งานน าเสนอ การใส่Transition สร้างเอฟเฟ็กต์ในจังหวะเปลี่ยน แผน่ สไลด์(Transition) การใส่เอฟเฟ็กต์ เป็นส่วนหนึ่ง ที่ท าให้งานน าเสนอของเราดูน่าสนใจ การใส่เอฟเฟ็กต์ที่ดีนั้นควรเลือก รูปแบบของเอฟเฟ็กต์ให้เป็นไปใน ทิศทาง หรือรูปแบบเดียวกัน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับข้อมูลของงานน าเสนอด้วย หากมีการใช้เอฟเฟ็กต์มาก หรือ หลากหลายรูปแบบจนเกินไป จะท าให้ ผู้ชมงานน าเสนอสับสนได้ การใส่เอฟ เฟ็กต์มีวิธีการดังนี้ 1. คลิกสไลด์แผ่นที่จะสร้างTransition 2. คลิกแท็บ Transition จะปรากฏ รูปแบบ Transition ให้เลือก 3.คลิกเลือกเอฟเฟ็กต์รูปแบบที่ ต้องการ ปรบัแต่งเอฟเฟ็ กต์เพิ่มเติม 1. ที่ปุ่ม Effect Options คลิก เลือกลักษณะของ Transition 2. เลือกรูปแบบของการปรากฏสไลด์ที่ส่วนของ Advance Slide โดยเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง · ต้องการให้สไลด์ปรากฏขึ้นมาเมื่อ คลิก เมาส์ให้เลือก On mouse click · ถ้าต้องการให้สไลด์ปรากฏขึ้นมาโดย อัตโนมัติหลังจากสไลด์แผ่นก่อนหน้า ให้เลือก After พร้อมก าหนดเวลา เช่น ถ้าใส่ไว้00.05.00 สไลด์ก็จะแสดงผลเป็นเวลา วินาทีก่อนจะเปลี่ยนไปสไลด์ต่อไป เพิ่มเอฟเฟ็ กต์เสียงขณะเปลี่ยนสไลด์ การใส่เสียงขณะที่มีการเปลี่ยน สไลด์เพื่อผู้ฟังการน าเสนอทราบว่า ก าลังมี การเปลี่ยนสไลด์ที่น าเสนอ รูปแบบเสียง โปรแกรมจะมีมาให้อยู่แล้วส่วนหนึ่ง แต่ถ้า ต้องการน ารูปแบบเสียงจากไฟล์ที่ได้เตรียม ไว้เพื่อให้เหมาะสมกับเนื้อหา ก็สามารถท า ได้แต่รูปแบบไฟล์จะต้องเป็นนามสกุล WMA 1.ที่แท็บ Animation คลิกปุ่ม ท้าย ช่อง Transition Sound 2. รูปแบบของเสียงจะดังขึ้นพร้อม ทั้งแสดงเอฟเฟ็กต์การเปลี่ยนสไลด์ 3. คลิกเลือกเสียงที่จะใส่ในสไลด์ 4.ถ้าต้องการให้เสียงแสดงตลอดเวลาจนกว่าจะมีเสียงอื่นเกิดขึ้น ให้คลิกเลือกที่ Loop Until Next Sound 5. ถ้าต้องการน าเสียงจากที่อื่นมาใส่ ให้คลิกเลือกที่ Other Sound จะปรากฏหน้าต่าง Add Audio เลือกไฟล์เสียงที่เป็นส่วนขยาย .wav (ไฟล์เสียงที่สามารถน ามาใช้กับ Transition ต้องเป็น .wav เท่านั้น) การก าหนด ระยะเวลาของ Transition โดยปกติการใส่ Transition จะมีเวลาก าหนดมาให้ในแต่ละรูปแบบ แต่ถ้าต้องการเปลี่ยนแปลงเวลา การแสดงผลของ Transition ท าได้โดยการเพิ่มหรือลดเวลาในช่อง Duration เมื่อได้ก าหนด Transition ให้กับสไลด์ เรียบร้อยแล้ว กดปุ่ม Apply to all จะมีผลท าให้ ทุกสไลด์จะมีรูปแบบ Transition ที่เหมือนกัน จากนั้นให้ทดลองการใส่ Transition ดูว่าเป็นไป ตามที่ต้องการหรือไม่ โดยคลิกที่ปุ่ม Preview สไลด์จะแสดงรูปแบบต่าง ๆ ที่ได้ก าหนดไว้ทีละสไลด์ แต่ถ้า ต้องการดูทั้งหมดให้กดปุ่ม F5 บนแป้นพิมพ์หรือคลิกที่ปุ่ม ก าหนดการเคลื่อนไหวของวัตถุ (Animations) ในการน าเสนองานบางครั้งผู้น าเสนอจะเป็นผู้ก าหนดให้เนื้อหาแสดงตามที่ออกแบบไว้ เช่น แสดง เมื่อมีการคลิกเมาส์หรือให้แสดงตามเวลาที่ก าหนดไว้ รวมถึงการก าหนดให้วัตถุแต่ละชนิดเช่น ข้อความ รูปภาพ กราฟหรือตาราง แสดงผลในรูปแบบที่ก าหนดไว้ล่วงหน้า การเคลื่อนไหวมี รูปแบบคือ 1.วัตถุเคลื่อนไหวเข้ามาในสไลด์ 2. การเน้นวัตถุที่แสดงในสไลด์ 3. วัตถุเคลื่อนไหวออกจากสไลด์ ขั้นตอนในการก าหนดให้วัตถุเคลื่อนไหวเข้ามาในสไลด์มีดังนี้ 1. เลือกสไลด์ที่จะท าการก าหนดการ เคลื่อนไหวของวัตถุ 2. คลิกแท็บ Animations 3.คลิกวัตถุที่ต้องการก าหนดการ เคลื่อนไหว 4. เลือกรูปแบบการเคลื่อนไหว การเพิ่มEffect Options เมื่อ ก าหนดรูปแบบการเคลื่อนไหวแล้ว ยังสามารถก าหนดทิศทางการ เคลื่อนไหวเข้ามาของวัตถุ ซึ่งแต่ละ รูปแบบจะมี Effect Options ไม่ เหมือนกัน จากรูปก าหนดรูปแบบ Animation เป็น Float In และเลือก Effect Options เป็น Float Down กา หนดการเคลื่อนไหวให้แต่ละวตัถจุ ากตวัเลือกกา หนดเอง 1. คลิกวัตถุที่ต้องการ ก าหนดการเคลื่อนไหว 2. คลิกแท็บ Animations 3. คลิกปุ่ม Add Animations จะมีหน้าต่างประเภทของ Animations ปรากฏขึ้นมาโดย แบ่งเป็นหมวดหมู่ เลือก Entrance คลิกเอฟเฟ็กต์ที่ ต้องการ 4.กรณีที่ต้องการเลือกรูปแบบ Animations นอกเหนือจากที่ ปรากฏ ให้คลิกเลือก Animation เพิ่มเติมตามประเภท เช่น More Entrance Effects (เอฟเฟ็กต์การ เคลื่อนไหวเข้าของวัตถุ) เมื่อคลิกจะปรากฏหน้าต่าง Add Entrance Effect ให้เลือกเอฟเฟ็กต์ที่มีเพิ่มเติม จากตัวอย่างเลือกเอฟเฟ็กต์ Center Revolve ขั้นตอนในการก าหนดให้เน้นวัตถุเคลื่อนไหวมีดังนี้ 1. คลิกวัตถุที่ต้องการก าหนดการเคลื่อนไหว 2. คลิกแท็บAnimations 3. คลิกปุ่ม Add Animations จะมีหน้าต่างประเภทของ Animationsปรากฏขึ้นมาโดยแบ่งเป็นหมวดหมู่ เลือก Emphasis คลิกเอฟเฟ็กต์ที่ ต้องการ4.กรณีที่ต้องการเลือกรูปแบบ Animations นอกเหนือจากที่ปรากฏ ให้คลิกเลือกAnimation เพิ่มเติม ตามประเภท เช่น More Emphasis Effects (เอฟเฟ็กต์เน้นการ เคลื่อนไหวของวัตถุในสไลด์) เมื่อ คลิกจะปรากฏหน้าต่าง Add Emphasis Effect ให้เลือกเอฟเฟ็กต์ ที่มีเพิ่มเติม จากตัวอย่างเลือกเอฟ เฟ็กต์ Teeter ขั้นตอนในการก าหนดให้วัตถุเคลื่อนไหวออกจากสไลด์มีดังนี้ 1. คลิกวัตถุที่ต้องการก าหนดการ เคลื่อนไหว 2. คลิกแท็บ Animations 3. คลิกปุ่ม Add Animations จะมี หน้าต่างประเภทของ Animations ปรากฏขึ้นมาโดยแบ่งเป็นหมวดหมู่ เลือก Exitคลิกเอฟเฟ็กต์ที่ต้องการ จากตัวอย่างเลือกเป็น Fly Out การก าหนดให้วัตถุเคลื่อนไหวออกจากสไลด์โดยก าหนดเส้นทางให้กับวัตถุด้วย (Motion Paths) คลิกAnimations กลุ่ม Motion Paths คลิกเลือกรูปแบบ จากตัวอย่างเลือก Arcs จะปรากฏเส้นทิศทางการเคลื่อนไหว ของวัตถุ (Paths) ใช้เมาส์ลากหัวลูกศรสี แดง (ต าแหน่งปลายทาง ลูกศรสีเขียวจะ เป็นต าแหน่งต้นทาง) Arcs เป็นรูปแบบเส้น โค้ง ซึ่งสามารถปรับแต่งเพิ่มความโค้งโดย ลากเมาส์ที่จุดสีเขียว การก าหนดให้วัตถุเคลื่อนไหวออกจากสไลด์โดยก าหนดเส้นทางให้กับวัตถุด้วย (Custom Paths) คลิกAnimations กลุ่ม Motion Paths คลิกเลือก Custom Paths เมาส์จะเป็นรูป กากบาท น าเมาส์ไปลากจุดเริ่มต้นจากวัตถุไป วาดเส้นตามที่ต้องการให้วัตถุเคลื่อนไหวแบบ อิสระ จากตัวอย่างวาดให้เป็นเส้นโค้งขึ้นลง เมื่อแสดงผลวัตถุจะเคลื่อนไหวออกจาก ต าแหน่งไปตามเส้นทางที่วาด การแก้ไขการเคลื่อนไหวของวัตถุ เมื่อท าการทดสอบการเคลื่อนไหวของวัตถุ ต้องการแก้ไขใหม่สามารถท าได้ทั้งการเคลื่อนไหวเข้า การเคลื่อนไหวออกและการเน้นวัตถุ 1. คลิกวัตถุที่ต้องการแก้ไขการเคลื่อนไหว 2. คลิกที่ปุ่ม Animation Pane จะมีหน้าต่าง Animation Pane และมีกรอบแสดงการเคลื่อนไหวของวัตถุ 3. คลิกเลือกเอฟเฟ็กต์การเคลื่อนไหวที่ต้องการแก้ไขในหน้าต่าง Animation Pane หรือคลิกที่ล าดับการ เคลื่อนไหวในสไลด์ 4. จะเปลี่ยนเอฟเฟ็กต์หรือเปลี่ยนเฉพาะ Effect Options ก็ได้ จากตัวอย่างเปลี่ยนEffect Options เป็น Form Right หมายเหตุ เอฟเฟ็กต์การเคลื่อนไหวทั้ง แบบจะสังเกตได้ในหน้าต่าง Animation Pane จะมีสัญลักษณ์ของเอฟเฟ็กต์และสีของเอฟเฟ็กต์ 1. ดาวสีเขียว วัตถุเคลื่อนไหวเข้ามาในสไลด์ 2. ดาวสีเหลืองการเน้นวัตถุที่แสดงในสไลด์ 3. ดาวสีแดง วัตถุเคลื่อนไหวออกจากสไลด์ การก าหนดเวลา หลังจากก าหนดรูปแบบการเคลื่อนไหวให้กับวัตถุในสไลด์จนครบแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการปรับแต่ง คุณสมบัติของการเคลื่อนไหว เพื่อให้การเคลื่อนไหวของแต่ละวัตถุสมบูรณ์ยิ่งขึ้น รวมถึงการควบคุมงาน น าเสนอให้ง่ายซึ่งอาจจะก าหนดให้บางสไลด์ใช้เมาส์ควบคุม บางสไลด์ให้เล่นเองอัตโนมัติท าให้การน าเสนอ งานมีความคล่องตัวและสะดวก โดยมีขั้นตอนดังนี้ 1. เลือกแท็บ Animations คลิกเลือกวัตถุที่ต้องการปรับแต่ง ซึ่งวัตถุที่ก าหนดเอฟเฟ็กต์ไว้จะปรากฏ ตัวเลขล าดับการเคลื่อนไหวขึ้นมา 2.คลิกเลือกรูปแบบการปรากฏของวัตถุอย่างใดอย่างหนึ่ง ต่อไปนี้ที่ช่องStart · On Click เมื่อต้องการให้วัตถุปรากฏ เมื่อคลิกเมาส์ · With Previous เมื่อต้องการให้วัตถุ ปรากฏพร้อมวัตถุก่อนหน้า · After Previous เมื่อต้องการให้วัตถุปรากฏหลังวัตถุก่อนหน้า 4. ปรับระดับความเร็วในการปรากฏของวัตถุDuration โดยปกติเมื่อท าการเลือกรูปแบบ Animation แล้ว จะมีการก าหนดระยะเวลาการแสดงให้มาเลย แต่ถ้าต้องการปรับเวลาให้แสดง ช้าหรือเร็วก็สามารถก าหนดเองได้ 5. ปรับการหน่วงเวลาของวัตถุจะให้ปรากฏหลังจาก Start เป็นเวลาเท่าไร เช่น On Click ก าหนด Delay ไว้ 02.00 เวลาน าเสนอเมื่อท าการคลิกเมาส์ วัตถุที่หน่วงเวลาไว้จะปรากฏเมื่อเวลาผ่าน ไป วินาที ตัวอย่างการก าหนดเวลารูปแบบต่าง ๆ ใหนกลุ่มค าสั่ง Timing และ ใน Animation Pane  On Click ที่ Animation Pane จะมีรูปเมาส์เป็น สัญลักษณ์·  With Previous ที่ Animation Pane จะไม่มีสัญลักษณ์ และมีการก าหนด Duration เพิ่มเติม·  After Previous ที่ Animation Pane จะมีสัญลักษณ์เป็นรูปนาฬิกา และมีการก าหนด Duration และ· Delay เพิ่มเติม การจัดล าดับภาพเคลื่อนไหว การปรับแต่งแก้ไขการเคลื่อนไหวของวัตถุอาจท าให้ล าดับของวัตถุที่ต้องการแสดงก่อนหลัง คลาดเคลื่อนไป วิธีการเรียงล าดับใหม่ให้คลิกที่ในสไลด์ในหน้าต่าง Animation Pane จะมีกรอบที่ได้ ก าหนดการเคลื่อนไหวของวัตถุไว้ จากนั้นให้คลิกเลือกการเคลื่อนไหวของวัตถุที่ต้องการจัดล าดับใหม่ คลิก ที่Move Earlier ถ้าต้องการเลื่อนล าดับขึ้น และคลิกที่ Mover Later ถ้าต้องการเลื่อนล าดับลง การใส่เสียงเอฟเฟ็ กตใ์ห้กบัวตัถทุ ี่เคลื่อนไหว เมื่อมีการใส่การเคลื่อนไหวให้วัตถุแล้วยังมีเอฟเฟ็กต์เสียงที่ช่วยท า ให้งานน าเสนอมีความน่าสนใจยิ่งขึ้น โดยแต่ละวัตถุสามารถใส่เอฟเฟ็กต์แยก จากกัน แต่ไม่ควรจะใส่มากจนเกินไปเพราะจะท าให้ผู้ฟังงานน าเสนอมีความ สับสนได้ การใส่เสียงมีขั้นตอนดังนี้ 1. คลิกวัตถุที่ต้องการใส่เอฟเฟ็กต์เสียงในหน้าต่าง Animation Pane 2. คลิกที่ปุ่มลูกศรหัวลงด้านขวามือของกรอบวัตถุ จะปรากฏเมนูย่อย ขึ้นมาให้เลือกที่ค าสั่ง Effect Option Animation Pane จะมีหน้าต่าง ส าหรับใส่เอฟเฟ็กต์ 3. คลิกเลือกเอฟเฟ็กต์เสียงที่มีในช่อง Sound แต่ถ้าต้องการเลือก เสียงให้ตรงกันงานก็สามารถท าได้โดยเลือกที่ Other Sound จะ ปรากฏหน้าต่างเพื่อไปเลือกไฟล์ที่เก็บไว้ หลังจากนั้นให้คลิกปุ่ม OK (ไฟล์เสียงต้องเป็น .wav) การใช้ตัวตัดวางภาพเคลื่อนไหว(Animation Painter) เมื่อมีการก าหนดให้วัตถุเคลื่อนไหวและใส่เอฟเฟ็กต์ต่าง ๆ แล้ว ถ้ามีการสร้างวัตถุใหม่แต่ต้องการ ให้มีคุณสมบัติการเคลื่อนไหวเหมือนกับวัตถุที่ท ามาแล้ว ไม่ต้องเสียเวลาในการก าหนดใหม่ ค าสั่งAnimation Painter เป็นค าสั่งที่ใช้ส าหรับคัดลอกคุณสมบัติการเคลื่อนไหวของวัตถุมีขั้นตอนการท าดังนี้ 1. คลิกเลือกวัตถุที่ต้นฉบับที่ต้องการคัดลอกการเคลื่อนไหว 2. คลิกที่ปุ่มค าสั่ง Animation Painter เมาส์จะเปลี่ยนเคอร์เซอร์เป็นรูป 3. น าเมาส์ไปคลิกเลือกวัตถุปลายทางที่ต้องการให้มีการเคลื่อนไหวเหมือนวัตถุที่คัด ลอกมา การใช้ค าสั ่ง Trigger ค าสั่ง Trigger จะท างานกับวัตถุ ตัวที่ใช้ท าลูกเล่นให้วัตถุซ่อนและแสดงผลและจางหายไปตาม เงื่อนไขเวลาที่ก าหนดไว้ เช่น ก าหนดให้วัตถุที่ซ่อนไว้แสดงขึ้นเมื่อมีการคลิกเมาส์ที่ข้อความ สามารถน าไป ประยุกต์ใช้กับการน าเสนอและสื่อได้หลากหลาย จากตัวอย่างจะก าหนดให้ท าการคลิกเมาส์ที่กล่อง ข้อความ รูปอะไร” จากนั้นจึงจะปรากฏรูปดอกไม้แสดงขึ้นมา และจางหายไป มีขั้นตอนในการท าดังนี้ 1. สร้างกล่องข้อความและพิมพ์ว่า รูปอะไร2. แทรกรูปภาพดอกไม้ รูป และใส่กรอบให้กับรูปภาพ 3. คลิกที่รูปดอกไม้ และเลือกไปที่แท็บ Animations ให้ใส่ การเคลื่อนไหวดังนี้(หลักการท างานของ Triggerต้องการให้วัตถุตัวใดเคลื่อนไหวจะท างานที่วัตถุ นั้น)  วัตถุเข้า(Entrance) เป็นแบบShape เลือก Effect Options เป็น Circleก าหนดการเริ่มต้น· Start เป็น On Click ก าหนด Duration เท่ากับ 02.00 Delay เท่ากับ 00.00  วัตถุออก (Exit) เป็นแบบ Fade ก าหนดการเริ่มต้น Start เป็น With Previous ก าหนด· Durationเท่ากับ 03.00 Delay เท่ากับ 02.00 4. คลิกที่กล่องข้อความ รูปอะไร และคลิกเมาส์ขวาที่วัตถุเข้าในหน้าต่าง Animation Pane จะปรากฏ เมนูย่อย ให้เลือก Timing 5.เมื่อปรากฏหน้าต่างการเคลื่อนไหวของวัตถุ ที่แท็บ Timing  คลิกที่ปุ่ม Trigger จะปรากฏเมนูให้เลือก·  คลิกเลือก Start effect on click of: เลือกที่ชื่อวัตถุ รูปอะไร· 6. ที่ Animation Pane ให้เลื่อนการเคลื่อนไหวออกลงมาอยู่ต่อท้ายจากวัตถุเข้า 7. ทดลองการใช้งาน Trigger โดยกดปุ่ม F5 เมื่อสไลด์ท าการน าเสนอให้เลื่อนเมาส์ไปที่กล่องข้อความ รูปอะไร เมาส์จะเปลี่ยนเป็นรูปมือ ท าการคลิกเมาส์ที่กล่องข้อความ รูปดอกไม้จะแสดงออกมาและ จะเลือนหายไปตามที่ก าหนดระยะเวลาไว้ การแทรกไฟล์มัลติมีเดีย การสร้างสไลดม์ ลัติมีเดีย การสร้างภาพนิ่งโดยใช้สื่อมัลติมีเดีย สามารถสร้างความน่าสนใจให้กับผู้ชมได้มาก แต่ไม่ควรมีมาก เกินไป จะท าให้ผู้ดูสับสนระหว่างสิ่งที่ต้องการน าเสนอกับไฟล์มัลติมีเดีย หากผู้ออกแบบงานน าเสนอมีไฟล์ มัลติมีเดียอยู่แล้ว ต้องการน าเสนอลงในภาพนิ่งก็ท าได้โดยใช้โปรแกรมMicrosoft PowerPoint โดย มัลติมีเดียที่นิยมใช้จะเป็นไฟล์เสียงที่เล่นคู่กับงานน าเสนอ หรือไฟล์วีดิโอที่น ามาแทรกลงในภาพนิ่งเพื่อให้ ผู้ชมได้เปลี่ยนบรรยากาศในการน าเสนอและเป็นการเสริมข้อมูลที่เป็นข้อความหรือรูปภาพ ชนิดของไฟลเ์สียงในระบบคอมพิวเตอร์ มีไฟล์เสียงหลายชนิดที่น ามาใช้กับงานคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีคุณสมบัติแตกต่างกัน การที่จะเลือกไฟล์ เสียงให้เหมาะสมกับงานประเภทนั้น ๆ รูปแบบไฟล์เสียงที่โปรแกรมรองรับการใช้งาน รูปแบบแฟ้ม ส่วนขยาย ข้อมูลเพิ่มเติม แฟ้มเสียง AIFF .aiff Audio Interchange File Format รูปแบบเสียงนี้แต่เดิมใช้ในเครื่อง คอมพิวเตอร์ของ Apple และ Silicon Graphics (SGI) แฟ้มคลื่นเสียงเหล่านี้ ถูกจัดเก็บในรูปแบบ Monaural (สัญญาณโมโน หรือ ช่องเดียว) แบบ บิต ซึ่ง ไม่มีการบีบอัด และอาจท าให้มีแฟ้มขนาดใหญ่ แฟ้มเสียง AU .au UNIX Audio รูปแบบแฟ้มนี้โดยทั่วไปใช้เพื่อสร้างแฟ้มเสียงส าหรับ คอมพิวเตอร์ UNIX หรือส าหรับเว็บ แฟ้ม MIDI .mid หรือ .midi Musical Instrument Digital Interface รูปแบบแฟ้มนี้เป็น รูปแบบมาตรฐานส าหรับการแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับดนตรีระหว่างเครื่อง ดนตรี ตัวสังเคราะห์เสียง และคอมพิวเตอร์ แฟ้มเสียง MP3 .mp3 MPEG Audio Layer 3 รูปแบบแฟ้มนี้เป็นแฟ้มเสียงที่ถูกบีบอัดโดยใช้ตัว แปลงสัญญาณMPEG Audio Layer 3 แฟ้มเสียง Windows .wav รูปแบบคลื่นเสียง รูปแบบแฟ้มเสียงนี้จะเก็บเสียงเป็นรูปแบบคลื่นเสียง กล่าวคือเสียงหนึ่งนาทีอาจใช้ที่เก็บเพียง644 กิโลไบต์ หรืออาจมีขนาดใหญ่ถึง 27 เมกะไบต์ แฟ้ม Windows Media Audio .wma Windows Media Audio รูปแบบแฟ้มนี้เป็นแฟ้มเสียงที่ถูกบีบอัดโดยใช้ตัว แปลงสัญญาณ Microsoft Windows Media การเพิ่มเสียงลงในภาพนิ่ง เพื่อป้องกันการเชื่อมโยงไฟล์เสียงกับสไลด์ ควรน าไฟล์เสียงมาเก็บไว้ยังต าแหน่งเดียวกันกับ ไฟล์งานน าเสนอ ก่อนที่จะเพิ่มไฟล์เสียงลงในสไลด์ และเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา ควรใช้ไฟล์เสียง นามสกุล WMA (Windows Media Audio) หรือ MP3 ซึ่งการ เพิ่มไฟล์เสียงลงในสไลด์มี แบบคือ 1. การแทรกเสียงจากไฟล์เสียง 2. การแทรกเสียงจากClip Organizer 3. การแทรกเสียงโดยการบันทึกเสียงฃ วิธีการแทรกเสียงจากไฟลเ์สียง 1. คลิกภาพนิ่งที่ต้องการเพิ่มเสียง 2. คลิกแท็บ Insert 3. ในกลุ่ม Media ให้คลิกลูกศรใต้Audio 4. คลิก Audio from file ถ้าต้องการเพิ่มไฟล์เสียงจากไฟล์ที่ต้องการ จะปรากฏหน้าต่าง Insert Audio เลือกแหล่งที่เก็บไฟล์เสียงไว้และกดปุ่มInsert ไฟล์เสียงก็จะถูกแทรกเข้ามาในสไลด์ การแทรกเสียงจาก Clip Organizer 1.คลิก Clip Art Audio จะปรากฏ ไฟล์เสียงขึ้นมาให้เลือก 2. ดับเบิลคลิกไฟล์เสียงที่เลือก 3. ไฟล์เสียงก็จะถูกแทรกเข้ามาในสไลด์ การบันทึกเสียง Record Audio การน าเสนอประกอบค าบรรยายลงไปในสไลด์จะช่วยให้งานมีความสมบูรณ์มากขึ้น เพราะเนื้อหาที่ ต้องบรรยายบางครั้งมีจ านวนมาก การบันทึกเสียงจึงช่วยให้การน าเสนองานมี ความสะดวกและถูกต้องมากขึ้น วิธีการบันทึกเสียงท าได้ดังนี้ 1.คลิกลูกศรใต้Audio เลือก Record Audio 2. เมื่อปรากฏกล่อง Record Sound ขึ้นมาแล้ว ให้คลิกที่ปุ่ม Record และท าการพูดบรรยาย 3. เมื่อบันทึกเสียงเสร็จแล้วให้คลิกที่ปุ่ม Stop จะปรากฏรูป ล าโพงในสไลด์แสดงว่าเสียงบรรยายได้ถูกแทรกลงไปใน สไลด์เรียบร้อยแล้ว การกา หนดรปู แบบการเล่นเสียง การก าหนดการเล่นเสียง ให้คลิกรูปล าโพงบนสไลด์จะปรากฏที่แท็บ Audio Tools ให้คลิกที่ปุ่ม Playback จะมีเครื่องมือส าหรับการจัดการเสียง เช่น การก าหนดการเล่นเสียง การก าหนดให้มีFade In และ Fade Out การซ่อนรูปล าโพงเมื่อมีการเล่นสไลด์ การปรับระดับเสียงเป็นต้น การตัดเสียง (Trim Audio) ในกลุ่ม Editing ให้เลือกที่Trim Audio เพื่อท าการตัดเสียงให้พอดีกับการเล่นสไลด์ เป็นค าสั่งใหม่ เพื่อช่วยให้การท างานกับเสียงสะดวกขึ้น ไม่ต้องเสียเวลาน าไฟล์เสียงไปตัดต่อกับโปรแกรมอื่น เมื่อ คลิกที่ปุ่มค าสั่ง จะปรากฏเครื่องมือในการตัดเสียงขึ้นมา ให้ท าการเลื่อนสไลด์บาร์สีเขียวจะเป็นการ ตัดเสียงส่วนแรก ส่วนสไลด์บาร์สีแดงเมื่อเลื่อนเข้ามาจะท าการตัดเสียงส่วนท้าย จะมีเวลาบอกอยู่ ด้านล่าง เมื่อท าการตัดเสียงแล้วทดลองฟังโดยกดปุ่ม Playเมื่อได้ขนาดเสียงที่ต้องการให้กดปุ่ม OK การแทรกไฟลว์ีดิโอ การแทรกไฟล์วีดิโอ สามารถท าได้คล้ายคลึงกับการแทรกไฟล์เสียง เพียงตัวเลือกเป็น Video เท่านั้น ปัจจุบันไฟล์วีดิโอมีนามสกุลหลายนามสกุล ซึ่งแต่ละนามสกุลจะรองรับการท างานของโปรแกรมแต่ ละประเภท จึงควรศึกษาเกี่ยวกับนามสกุลของไฟล์วีดิโอก่อนที่น ามาใช้ในงานน าเสนอเพื่อให้ไม่เกิดความ สับสนในขณะที่สร้างสื่อน าเสนองาน รูปแบบไฟล์ Video ที่โปรแกรมรองรับการใช้งานได้ รูปแบบแฟ้ม ส่วนขยาย ข้อมูลเพิ่มเติม Adobe Flash Media .swf Flash Video รูปแบบแฟ้มนี้โดยทั่วไปใช้ในการส่งข้อมูลวิดีโอบน อินเทอร์เน็ตโดยใช้โปรแกรม Adobe Flash Player แฟ้ม Windows Media .asf Advanced Streaming Format รูปแบบแฟ้มนี้จะจัดเก็บข้อมูล มัลติมีเดียที่ท าให้ตรงกัน และสามารถใช้เพื่อสตรีมเนื้อหาเกี่ยวกับเสียง และวิดีโอ รูป และค าสั่งสคริปต์บนเครือข่าย แฟ้ม Windows Video .avi Audio Video Interleaveนี่คือรูปแบบแฟ้มมัลติมีเดียส าหรับใช้จัดเก็บ เสียงและภาพเคลื่อนไหวในรูปแบบMicrosoft Resource Interchange File Format (RIFF) รูปแบบนี้เป็นรูปแบบที่ใช้กันมากที่สุดรูปแบบหนึ่ง เนื่องจาก แฟ้มที่มีส่วนขยาย .avi สามารถจัดเก็บเนี้อหาเสียงหรือวิดีโอที่ มีการบีบอัดด้วยตัวแปลงสัญญาณที่หลากหลายได้ แฟ้มภาพยนตร์ .mpg หรือ .mpeg Moving Picture Experts Group รูปแบบนี่เป็นชุดของมาตรฐานการ บีบอัดวิดีโอและเสียงที่ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องโดย Moving Picture Experts Group รูปแบบแฟ้มนี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้กับสื่อ ประเภทวิดีโอซีดี และ CD-i โดยเฉพาะ แฟ้ม Windows Media Video .wmv Windows Media Video รูปแบบแฟ้มนี้จะบีบอัดเสียงและวิดีโอโดยใช้ ตัวแปลงสัญญาณ Windows Media Video รูปแบบแฟ้มนี้เป็นรูปแบบ แฟ้มที่ถูกบีบอัดอย่างแน่นหนาซึ่งต้องการพื้นที่เก็บข้อมูลบนฮาร์ดดิสก์ ของคอมพิวเตอร์ของคุณน้อยมาก วิธีการแทรกไฟลว์ีดิโอมีดงันี้ 1. คลิกสไลด์ที่ต้องการแทรกภาพยนตร์ 2. คลิกแท็บ Insert ในกลุ่มค าสั่งMedia ให้คลิกลูกศรที่อยู่ภายใต้ Video 3. เลือกรูปแบบ Video ที่ต้องการต่อไปนี้  คลิก Video from file จะปรากฏหน้าต่างเพื่อให้ค้นหาที่อยู่ของไฟล์ Video คลิกปุ่มv Insert เพื่อแทรกไฟล์ Video  คลิก Video from Web Site จะปรากฏหน้าต่างเพื่อให้ลิงค์ที่อยู่ของ Videov  คลิก Clip Art Video เพื่อเลือกในไฟล์ในบานหน้าต่างงาน Clip Organizer จากนั้นv คลิก เพื่อเพิ่ม ลงในภาพนิ่ง 4. เมื่อVideo ถูกแทรกใน สไลด์แล้วให้ปรับแต่ง ขนาดการแสดงผลของ Video 5. คลิกที่Video และท าการ ปรับแต่งรูปแบบของ Video เช่น ใส่กรอบโดย เลือกจาก Video Styles การกา หนดรปู แบบการเล่นวิดีโอ การก าหนดการเล่น Video ให้คลิกรูปVideo บนสไลด์จะปรากฏที่แท็บ Video Tools ให้ คลิกที่ปุ่ม Playback จะมีเครื่องมือส าหรับการจัดการ Video เช่น การก าหนดการเล่น Video การ ก าหนดให้มีFade In และ Fade Out การเล่น Video แบบเต็มจอ เป็นต้น การตัด Video (Trim Video) ในกลุ่ม Editing ให้เลือกที่Trim Video เพื่อท าการตัด Video ให้เหมาะสมกับงานน าเสนอ ให้ท า การเลื่อนสไลด์บาร์สีเขียวจะเป็นการตัด Videoส่วนแรก ส่วนสไลด์บาร์สีแดงเมื่อเลื่อนเข้ามาจะท า การตัด Video ส่วนท้าย จะมีเวลาบอกอยู่ด้านล่าง เมื่อท าการตัด Video แล้วทดลองดูโดยกดปุ่ม Play เมื่อได้ขนาด Video ที่ต้องการให้กดปุ่ม OK สร้างการเชื่อมโยงหลายมิติ (Hyperlink) การเชื่อมโยงหลายมิติคือ การเชื่อมต่อระหว่างภาพนิ่งหนึ่งไปยังอีกภาพนิ่งหนึ่งในไฟล์น าเสนองาน เดียวกันหรือต่างไฟล์งานน าเสนอ สามารถเชื่อมโยงระหว่างโปรแกรมได้ เช่นเชื่อมโยงไปเปิดงานที่เป็น ไฟล์ Excel หรือเชื่อมโยงไปเปิดไฟล์ Video จึงเหมาะส าหรับงานเสนอที่มีข้อมูลซับซ้อน การเชื่อมโยงภายในไฟล์งานน าเสนอเดียวกัน การน าเสนองาน สามารถจะก าหนดปุ่มปฏิบัติการให้เชื่อมโยงไปยังสไลด์ที่ต้องการได้ โดยทั่วไปที่ ใช้กันมากคือการเชื่อมโยงไปยังสไลด์ถัดไป สไลด์ก่อนหน้า กลับสู่สไลด์หน้าแรก และไปยังสไลด์หน้า สุดท้าย จะท าให้การน าเสนอมีความคล่องตัวมากขึ้น ดังตัวอย่างการสร้างหน้าหลักต่อไปนี้ 1 สร้างภาพนิ่งที่มีข้อมูลให้เรียบร้อย (ตัวอย่างมี ภาพนิ่ง) 2 คลุมข้อความที่ต้องการสร้างจุดเชื่อมโยง 1. เลือกแท็บ Insert กลุ่มค าสั่ง Links คลิกเลือกที่ปุ่ม Hyperlink หรือ 2. คลิกขวาจะปรากฏเมนูย่อยให้เลือก Hyperlink 3 จะปรากฏกล่องโต้ตอบ เลือก Place in This Document เลือกหน้าที่ต้องการเชื่อมโยงและคลิก OK 4จะปรากฏข้อความที่เป็นจุดเชื่อมโยง เชื่อมโยงครบทุกสไลด์แล้วทดสอบการท างานโดยกดปุ่ม F5 5เชื่อมโยงสไลด์กลับหน้าหลัก (หน้าแรก) ของภาพนิ่งที่ 2, 3, 4, 5, 6 โดยสร้างกล่องข้อความและใช้กล่อง ข้อความในการเชื่อมโยง การสร้างจดุ เชื่อมโยงเพิ่มเติม การเชื่อมโยงไปเปิดไฟล์อื่น ๆ เช่น เปิดไฟล์ Video หรือเปิดไฟล์เอกสาร Excel มาประกอบการนเสนอ ให้เลือกที่ตัวเลือกแรก (Existing File or Web Page) และเลือกไฟล์ที่ต้องการเปิดได้ทันที การ ทดสอบก่อนน าเสนอผลงาน ก่อนน าเสนอผลงานควรทดสอบและท าการซ้อมก่อนน าเสนอ เพื่อให้การน าเสนองานเป็นไปอย่าง ถูกต้องตามที่ได้ออกแบบไว้ และป้องกันความผิดพลาดซึ่งอาจท าให้การน าเสนองานสะดุดและอาจต้อง เสียเวลาในการแก้ไข โปรแกรม Microsoft PowerPoint 2010 มีแท็บ Slide Show ส าหรับการทดสอบและ เตรียมตัวโดยการซ้อมก่อนน าเสนองาน ปกติการกดปุ่ม F5 หรือคลิกเลือกที่ไอคอน Slide Show ที่บริเวณ Task bar โปรแกรมจะเริ่มเปิด งานน าเสนอเริ่มจากสไลด์แรกเสมอ แต่ถ้ามีสไลด์จ านวนมากและต้องเกิดเริ่มน าเสนอสไลด์ช่วงตอนท้าย ต้องเสียเวลาในการเลื่อนสไลด์ ในแท็บ Slide Showจะมีรูปแบบให้เลือกการน าเสนอแต่ที่ใช้กันบ่อยคือ การน าเสนอตั้งแต่ต้น (From Beginning) กับการน าเสนอที่สไลด์ปัจจุบัน (From Current Slide) การเผยแพร่งานน าเสนอการเผยแพร่งานน าเสนอ คือการสร้างไฟล์งานให้อยู่ในรูปแบบที่หลากหลายเช่น เผยแพร่ผ่านเว็บ ผ่านอีเมล์ ผ่านแผ่นซีดีหรือไฟล์ เพื่อน าไปใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นได้ ในเวอร์ชัน 2010 มีรูปแบบ การท างานผ่าน Back Stage ซึ่งท าได้ง่ายเพราะแบ่งเป็นหมวดหมู่ได้ดี การเผยแพร่งานงานน าเสนอใน รูปแบบต่าง ๆ โดยเลือกที่Tab File ที่หน้าต่างด้านขวาจะมีรูปแบบส าหรับเผยแพร่ให้เลือกเป็น หมวดหมู่ คือ Save & Send และ File Types Save & Sendเป็นการบันทึกและท าการส่งไปยังอีเมล์ เว็บไซต์ ใช้งานร่วมกันใน SharePoint เป็น ต้น File Types เป็นการบันทึกเพื่อเผยแพร่ในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อน าไปเสนองาน หรือน าไปปรับปรุง เพื่อใช้งานต่อ เช่น Save เป็น Microsoft Word เป็นต้น ในที่นี้จะกล่าวเฉพาะการเผยแพร่ในหมวด File Types เท่านั้น การบันทึกและเปลี่ยนรูปแบบไฟล์ข้อมูล แบ่งได้ออกเป็น หมวดคือ 1. Presentation File Types บันทึกและแปลงเป็นงานน าเสนอรูปแบบต่าง จะขอยกตัวอย่าง บางส่วนเท่านั้น  PowerPoint Show เป็น· การบันทึกเพื่อ น าเสนอผลงานใน กรณีที่เครื่อง คอมพิวเตอร์ที่ไม่มี โปรแกรม มีขั้นตอน การท าดังนี้  PowerPoint Picture Presentation เป็นการบันทึกสไลด์เป็นไฟล์รูปภาพ ซึ่งอาจ· น าไปใช้งานต่อไป เช่น น าไปใช้กับโปรแกรมต่อวิดีโอเพื่อท าการน าเสนออีกรูปแบบ หนึ่ง 2. Image File Types บันทึกและแปลงสไลด์เป็นไฟล์รูปภาพ เมื่อท าการบันทึกจะปรากฏกล่องโต้ตอบขึ้นมาถามว่าจะบันทึกทั้งหมดหรือเฉพาะสไลด์ปัจจุบัน จากนั้นจะปรากฏหน้าต่างที่เก็บข้อมูล เนื่องจากเมื่อแปลงเป็นรูปที่มีหลายรูปโปรแกรมจะจัดท า เป็นโฟลเดอร์ที่เก็บรูปภาพทั้งหมด 3. Other File Types บันทึกเป็นไฟล์อื่น ๆ เมื่อคลิก Save as จะปรากฏหน้าต่างแหล่งเก็บข้อมูล ให้เลือกที่ File Type ตามต้องการ การเผยแพร่เป็ นรปู แบบ PDF ท าการบันทึกไฟล์ ท าการบันทึกจะปรากฏหน้าต่างเพื่อให้เลือกแหล่งที่เก็บข้อมูล คลิก เลือกปุ่ม Publish โปรแกรมจะเริ่มท าการแปลงไฟล์ จากนั้นทดลองเปิดดูไฟล์ที่แปลงเป็น PDF การเผยแพร่เป็ นรปู แบบไฟล์Video ท าการบันทึกไฟล์ ท าการบันทึกจะปรากฏหน้าต่างเพื่อให้เลือกแหล่งที่เก็บข้อมูล คลิก เลือกปุ่ม Save โปรแกรมจะเริ่มท าการแปลงไฟล์ จากนั้นทดลองเปิดดูไฟล์ที่แปลงเป็น Video

ที่มา :https://manuschaibbc.files.wordpress.com/2015/07/e0b881e0b8b2e0b8a3e0b89be0b8a3e0b8b0e0b8a2e0b8b8e0b881e0b895e0b98ce0b983e0b88ae0b989e0b982e0b89be0b8a3e0b981e0b881e0b8a3e0b8a1-microsoft.pdf

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น